จากข้อมูลการศึกษาของ Roemer 1993 ได้วิเคราะห์ระบบบริการสุขภาพพื้นฐานขององค์ประกอบต่างๆ ของระบบ ใน 165
ประเทศ ได้จัดประเภทของระบบบริการสุขภาพทั่วโลกเป็น 4 ประเภท คือ
1.ระบบสุขภาพแบบตลาดเสรี( Free Market Model )
2.ระบบสุขภาพแบบประกันสุขภาพ(Social Insurance Model)
3.ระบบสุขภาพแบบบริการสุขภาพแห่งชาติ
( National Health Service (NHS) Model )
4.ระบบสุขภาพแบบสังคมนิยม (Socialist Model )
บทความนี้จึงเป็นการศึกษาถึงรูปแบบระบบบริการสุขภาพรูปแบบต่างๆที่มีการนำมาใช้เพื่อการดูแลสุขภาพของประชาชนในประเทศประเทศต่างๆ
และทำการเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสียของระบบเหล่านี้ โดยการวิเคราะห์ตามลักษณะของรูปแบบดังนี้
คำนิยาม/ลักษณะรูปแบบ (Definition),บทบาทของภาครัฐ(Role
of state) แหล่งเงินทุน (Funding),การควบคุมงบประมาณ
(Budget control),
จุดแข็ง
(Strength), จุดอ่อน (Weakness), แนวโน้ม (Major
innovation) เพื่อเป็นการเปรียบเทียบความแตกต่างของแต่ละระบบ
ซึ่งในหลายๆประเทศที่ใช้ระบบบริการสุขภาพที่แตกต่าง
ว่าเหตุใดแต่ละชาติถึงได้มีการเลือกใช้ระบบบริการสุขภาพที่แตกต่างกันออกไป
อนึ่งก็เพื่อเป็นการศึกษาถึงระบบบริการสุขภาพที่ประเทศไทยได้นำมาใช้ว่ามีความเหมาะสมกับสภาพการณ์ต่างๆในประเทศไทยหรือไม่อย่างไร
โดยองค์การอนามัยโลก (World Health Organization;WHO) ได้ให้ความหมายของสุขภาพว่า “Health is complete physical, mental, social
and spiritual well being.” ซึ่งหมายถึงสุขภาวะที่สมบูรณ์ทางกาย
ทางจิต ทางสังคมและทางจิตวิญญาณ
สุขภาวะที่สมบูรณ์ทางกาย หมายถึง
ร่างกายที่สมบูรณ์ แข็งแรง คล่องแคล่ว มีกำลังไม่เป็นโรคไม่พิการไม่บาดเจ็บ
มีเศรษฐกิจดี มีอาหารพอเพียง มีสภาพแวดล้อมที่สร้างเสริมสุขภาพซึ่งคำว่ากายในที่นี้หมายถึงทางกายภาพด้วย
สุขภาวะที่สมบูรณ์ทางจิต หมายถึง
จิตใจที่มีความสุข รื่นเริง ผ่อนคลาย ไม่เครียด มีความเมตตา
มีสติ มีสมาธิ มีปัญญา รวมถึงลดความเห็นแก่ตัวลงไปด้วยเพราะตราบใดที่ยังมีความเห็นแก่ตัวจะมีสุขภาพที่สมบูรณ์ทางจิตไม่ได้
สุขภาพที่สมบูรณ์ทางสังคม หมายถึง
มีการอยู่ร่วมกันได้ดี มีครอบครัวอบอุ่น
ชุมชนเข้มแข็ง สังคมมีความยุติธรรม
มีความเสมอภาค มีสันติภาพ มีความเป็นประชาสังคม มีระบบบริการที่ดี
สุขภาวะที่สมบูรณ์ทางจิตวิญญาณ (Spiritualwell-being) หมายถึง สุขภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อทำความดีหรือจิตสัมผัสกับสิ่งที่มีคุณค่าอันสูงสุด
เช่น การเสียสละ การมีความเมตตากรุณา การเข้าถึงพระรัตนตรัย หรือการเข้า ถึงพระผู้เป็นเจ้า
ความสุขทางจิตวิญญาณเป็นความสุขที่ไม่ระคนอยู่กับการเห็นแก่ตัว แต่เป็นสุขภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อมนุษย์หลุดพ้นจากความมีตัวตน จึงมีอิสรภาพ มีความผ่อนคลายอย่างยิ่ง
เบาสบาย มีความปิติแผ่ซ่านทั่วไป
มีความสุขอันปราณีตและล้ำลึก หรือความสุขอันเป็นทิพย์
มีความเอื้ออาทร เห็นอกเห็นใจ
สุขภาพโลก (Global Health) หมายถึงปัญหา
หรือข้อกังวลด้านสุขภาพ ที่ข้ามพรมแดน หรือผลจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนอกพรมแดน
และเกินขอบเขตและความสามารถของรัฐใดรัฐหนึ่งที่จะดำเนินการได้สำเร็จ
ต้องการกลไกที่มีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในระดับภูมิภาคหรือระดับโลก
เพื่อจัดการปัญหาสุขภาพและปัจจัยกำหนดปัญหาเหล่านั้น
ระบบสุขภาพโลก (Global Health
System) หมายถึง
ระบบและกลไกการจัดการเพื่อตอบสนองต่อปัญหาสุขภาพที่ข้ามพรมแดน
ที่ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม
และความร่วมมือระหว่างประเทศประเภทของระบบบริการสุขภาพทั่วโลกเป็น 4 ประเภท คือ
1.ระบบสุขภาพแบบตลาดเสรี( Free Market Model / Entrepreneurial )
ชาติที่ใช้รูปแบบระบบสุขภาพแบบนี้
ได้แก่ สหรัฐอเมริกา,แอฟริกาใต้,สวิสเซอร์แลนด์,ฟิลิปปินส์ เป็นต้นการบริหารจัดการระบบบริการสุขภาพ
- องค์ประกอบต่างๆ ของระบบบริการสุขภาพจัดในรูปแบบเอกชนที่แข่งขันภายใต้ตลาดเสรีเป็นส่วนใหญ่
- รัฐมีส่วนเข้าไปแทรกแซงกลไกตลาดน้อย
- ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพส่วนใหญ่มาจากเอกชน
- หน่วยบริการส่วนใหญ่เป็นของเอกชน
- เป็นความรับผิดชอบของบุคคลที่จะดูแลตนเอง
- การเข้าถึงบริการสุขภาพไม่ทั่วถึง
- บุคลากรส่วนใหญ่ไม่ใช่พนักงานของรัฐ
- การบริการมีคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญ
- ค่าใช้จ่ายสูง
2.ระบบสุขภาพแบบประกันสุขภาพ (Social Insurance Model)
ชาติที่ใช้รูปแบบระบบสุขภาพแบบนี้
ได้แก่ เยอรมัน ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เบลเยียม เป็นต้น การบริหารจัดการระบบบริการสุขภาพ-
รัฐไม่แทรกแซงกลไกในการจัดบริการสุขภาพหลายๆ ทาง
อาทิ ด้านค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล-
บางรัฐได้จัดสร้างและกระจายสถานบริการขนาดเล็กในเขตชนบท
-
รัฐเป็นผู้รับจัดบริการพื้นฐาน อาทิ
การฉีดวัคซีนป้องกันโรค การสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม การให้การรักษาพยาบาลที่จำเป็น-
สุขภาพเป็นเรื่องที่สามารถประกันได้-
แหล่งทุนและการบริหารมาจากนายจ้างและลูกจ้าง-
มีผู้เชี่ยวชาญในการบริหารกองทุน-
การจัดบริการที่มีคุณภาพมาตรฐาน-
ค่าใช้จ่ายสูง-
ใช้หลักการตลาดในการบริหารจัดการ
3.ระบบสุขภาพแบบบริการสุขภาพแห่งชาติ ( National Health Service (NHS) Model/ Comprehensive)ชาติที่ใช้รูปแบบระบบสุขภาพแบบนี้
ได้แก่ อังกฤษ ออสเตเรีย นิวซีแลนด์ แคนนาดา สเปน อิตาลี เป็นต้น การบริหารจัดการระบบบริการสุขภาพ-
รัฐได้มีบทบาทในระบบบริการสุขภาพมาก
เพื่อให้ประชากรทุกคนได้รับบริการสุขภาพอย่างครอบคลุมทัดเทียมกันภายใต้เงื่อนไขระดับเศรษฐกิจของประเทศ-
รัฐให้ความสำคัญต่อการจัดระบบบริการสุขภาพแก่ประชาชน-
ประชาชนสามารถรับบริการสุขภาพโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้วยตนเองโดยรัฐเป็นผู้จัดสรรภาษีเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมด-
สถานพยาบาลส่วนใหญ่อยู่ในการควบคุมของรัฐโดยตรง-
หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสำหรับการบริการที่ครบวงจร-
บุคลากรเป็นพนักงานของรัฐ
4.ระบบสุขภาพแบบสังคมนิยม (Socialist Model )
ชาติที่ใช้รูปแบบระบบสุขภาพแบบนี้ ได้แก่ จีน สหภาพโซเวียต คิวบา
เป็นต้น การบริหารจัดการระบบบริการสุขภาพ-
รัฐได้เข้าไปจัดการบริการสุขภาพอย่างสิ้นเชิง-
ไม่อนุญาตให้มีกลไกตลาดเอกชนใด ๆ
-
ใช้วิธีวางแผนจัดการจากส่วนกลาง
-
ทรัพยากรสาธารณสุขต่างๆอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ
-
ประชาชนทุกคนจะได้รับบริการจากรัฐ
จากข้อมูลข้างต้นสามารถวิเคราะห์ระบบบริการสุขภาพแบบต่างได้ดังนี้คำนิยาม/ลักษณะรูปแบบ (Definition)
แบบตลาดเสรี มองว่าสุขภาพสามารถซื้อขายได้แบบประกันสุขภาพ มองว่าสุขภาพสามรถประกันได้แบบบริการสุขภาพแห่งชาติ มองว่ารัฐต้องเป็นผู้ดูแลแบบสังคมนิยม มองทุกคนต้องได้รับบริการที่เท่าเทียมกัน
บทบาทของภาครัฐ(Role of state)
รูปแบบที่รัฐมีบทบาทมากที่สุดไปหาน้อยสุดคือ ระบบบริการสังคมนิยม
ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ ระบบบริการสุขภาพประกันสุขภาพ และระบบบริการตลาดเสรี
แหล่งเงินทุน (Funding)
แหล่งทุนจากภาครัฐ คือ ระบบบริการสุขภาพสังคมนิยมและระบบบริการสุขภาพแห่งชาติแหล่งทุนที่มาจากเอกชน คือ ระบบบริการสุขภาพประกันสุขภาพ
และระบบบริการตลาดเสรี
การควบคุมงบประมาณ (Budget control)ควบคุมโดยภาครัฐ คือ
ระบบบริการสุขภาพสังคมนิยมและระบบบริการสุขภาพแห่งชาติควบคุมโดยเอกชน คือ ระบบบริการสุขภาพประกันสุขภาพ
และระบบบริการตลาดเสรี
จุดแข็ง (Strength)
ความครอบคลุมและการเข้าถึงบริการของประชาชนมากที่สุดคือ ระบบบริการสุขภาพสังคมนิยมและระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ
แต่ระบบบริการสุขภาพประกันสุขภาพ และระบบบริการตลาดเสรี มีบริการที่มีคุณภาพมาตรฐานที่ดีกว่า
จุดอ่อน (Weakness)
ระบบบริการสุขภาพประกันสุขภาพ และระบบบริการตลาดเสรี มีค่าใช้จ่ายสูง
ความครอบคลุมและการเข้าถึงบริการของประชาชนมีน้อย
แต่ระบบบริการสุขภาพสังคมนิยมและระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ
เป็นการบริหารโดยระบบราชการที่มีความล้าช้า ซับซ้อน
และมีโอกาสเกิดการคอร์รับชั่นสูง
แนวโน้ม (Major innovation)ระบบบริการสุขภาพประกันสุขภาพ และระบบบริการตลาดเสรี มีการแข่งขันสูงต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการดูแลบริหารจัดการระบบเพื่อให้เกิดการบริการที่มีคุณภาพมากยิ่งๆขึ้นไป
ส่วนระบบบริการสุขภาพสังคมนิยม นั้นหากมีความเจริญก้าวหน้ามากทางด้านเศรษฐกิจ
อาจส่งผลต่อความต้องการบริการที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
อาจนำไปสู่การล้มสลายของระบบได้ ส่วนระบบบริการสุขภาพแห่งชาตินั้นต้องมีการบริหารจัดการที่ดีเพราะหากเกิดปัญหาด้านเศรษฐกิจของภาครัฐก็อาจเกิดปัญหาในการบริหารจัดการและความต้องการของประชาชนต่อการให้บริการได้เหมือนกัน
ระบบบริการสุขภาพของไทย (ปัจจุบัน)-
ระบบบริการสุขภาพของไทยปัจจุบัน
เป็นระบบบริการสุขภาพแบบสวัสดิการ
-
มีโครงสร้างของระบบบริการสาธารณสุขครอบคลุมทุกระดับ (จังหวัด-หมู่บ้าน)
-
ให้การบริการสาธารณสุขในลักษณะผสมผสาน (Integrated Health Service)
-
มุ่งเน้นเป้าหมายในการจัดระบบบริการคุณภาพ
-
ให้ความสำคัญกับประชาชนจะได้รับบริการสุขภาพอย่างเสมอภาค
(Equity)
ตามความจำเป็นด้านสุขภาพอนามัยโดยเสียค่าใช้จ่ายตามความ สามารถที่ช่วยได้
-
การบริการของเอกชนจะกระจายไปตามศักยภาพของเศรษฐกิจในพื้นที่ต่างๆ
ปัญหาระบบบริการสุขภาพของไทยมีปัญหาสำคัญ 5 ด้าน ได้แก่1.ปัญหาความไม่เป็นธรรม
-
การกระจายทรัพยากร-
การเข้าถึงและการใช้บริการ
(คนเมืองเข้าถึงได้มาก)-
สถานพยาบาล (นอก-ใน
เขตเมือง)-
การรับภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ
(คนจนมีสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพสูงกว่าคนรวย)
2.ปัญหาประสิทธิภาพของระบบบริการสาธารณสุข-
ประสิทธิภาพของบริการ
(รักษามีประสิทธิภาพทำให้สุขภาพดีน้อยกว่าส่งเสริม)
-
ประสิทธิภาพในการลงทุนด้านเตียง
(อัตราครองเตียง <80 aria-haspopup="true" class="goog-spellcheck-word" id=":11.4" role="menuitem" span="" style="background: yellow;" tabindex="-1">br80>
="">
3.
คุณภาพระบบบริการ (รัฐ-
เอกชน
ต่างกัน ด้านบริการ ค่าใช้จ่าย)
4.
การเข้าถึงบริการในยามฉุกเฉิน (กรณีอุบัติเหตุ)
5.
ความไม่ครอบคลุมของหลักประกันสุขภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น